ในระบอบการเมืองแบบประชาธิปไตย พรรคการเมืองจะเป็นสถาบันทางการเมืองที่มีความสำคัญมากและขาดไม่ได้ในกระบวนการปกครอง เพราะการปกครองระบอบประชาธิปไตยเป็นการปกครองที่ให้ประชาชนมีส่วนรวมในการปกครอง และมีอิทธิพลเหนือรัฐบาลโดยผ่านทางสภาผู้แทนราษฎร การที่ผู้แทนราษฎรจะมีคุณภาพ มีความสามารถและทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบนั้น จำเป็นต้องมีสถาบันทางการเมืองที่คอยประสานผลประโยชน์และกลั่นกรองความคิดเห็นของประชาชน และคัดเลือกตัวบุคคล เพื่อเสนอให้ประชาชนเลือกไปปฏิบัติหน้าที่แทน สถาบันที่ทำหน้าที่ดังกล่าวก็คือ พรรคการเมือง
พรรคการเมือง หมายถึง กลุ่มบุคคลที่มีความคิดทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ตลอดจนมีผลประโยชน์ในทางการเมือง เศรษฐกิจที่คล้ายคลึงกัน และต้องนำความคิดทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองนั้นไปใช้เป็นหลักในการบริหารประเทศ ด้วยการเผยแพร่เจตนารมณ์ดังกล่าวและส่งสมาชิกเข้าสมัครรับเลือกตั้งโดยมุ่งหวังที่จะได้เป็นรัฐบาล ดังนั้นพรรคการเมืองจึงพยายามทำทุกวิถีทางที่จะได้รับคะแนนเสียงข้างมากในรัฐสภา หรือถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาลก็เพื่อได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการควบคุมสอดส่องการบริหารงานของรัฐบาลโดยทำหน้าที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน
พรรคการเมืองแตกต่างจากกลุ่มผลประโยชน์ ตรงทกลุ่มผลประโยชน์นั้นอาจจะรวมตัวกันด้วย อุดมการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและมีผลประโยชน์คล้ายคลึงกัน มีสมาชิกดำเนินการทางการเมืองเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของกลุ่ม เช่นสหภาพแรงงานการขนส่ง เรียกร้องให้รัฐบาลปรับปรุงค่าจ้างและสวัสดิการ โดยใช้วิธีหยุดงานประท้วงและระดมความสนับสนุนจากสหภาพอื่นๆ เพื่อนำมาเป็นข้อต่อรอง ซึ่งล้วนแต่เป็นวิธีการทางการเมืองทั้งสิ้น แต่แตกต่างจากพรรคการเมืองตรงที่กลุ่มผลประโยชน์ไม่มีจุดมุ่งหมายที่จะแข่งขันในการเลือกตั้ง และที่สำคัญที่สุดก็คือไม่มีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งรัฐบาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น